วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556

เมื่อฉันถูกลัทธิอนุตตรธรรมทำลาย



เมื่อชีวิตฉันถูกลัทธิอนุตตรธรรมทำลาย 
ตอนนี้ผมขอยกเอาประสบการณ์ของผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนเพราะคนรักหลงเข้าไปในลัทธิอนุตตรธรรมจนสุดท้ายต้องบ้านแตกสาแหรกขาดเป็นที่น่าสงสารอย่างยิ่ง โดยผู้หญิงท่านนี้ได้เขียนเอาไว้ในเว็บพันทิพย์นะครับซึ่งก็มีเนื้อหายาวมากผมจึงขอตัดมาให้อ่านเป็นอุทาหรณ์เพียงส่วนครับ ใครอยากดูฉบับเต็มตามไปดูได้ที่ลิงค์นี้ครับ
หากใครได้เข้าไปดูแล้วจะเห็นว่าส่วนมากมีแต่ผู้ที่มาให้กำลังใจกับเธอ  แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าเหล่าสาวกลัทธิบางคนนอกจากจะไม่เห็นใจชะตากรรมของเธอแต่ยังกลับเหยียบย่ำซ้ำเติมเสียด้วยซ้ำเพียงเพราะความงมงายในลัทธิ ต้องการปกป้องลัทธิจนออกนอกหน้าจนอาจลืมคุณธรรมพื้นฐานไปเสียแล้ว  

----------------------------------------------------------------------



จากคุณ thanikaordnance27

 
>> ฉันแต่งงานกับสามีที่เป็นลูกชายคนเดียวและทางบ้าน (จ.เชียงราย) ตั้งเป็นสถานธรรม ดิฉันแต่งงานมาตั้งแต่ืปี ๔๙ ปัจจุบันดิฉันโดนสามีขอหย่า เนื่องจาก ทางบ้านรับดิฉันไม่ได้ที่่ไม่ปฏิบัติธรรมะ ซึ่งดิฉันไม่เข้าใจว่าจะให้ปฏิบัติแบบไหน เพราะดิฉันนั่งสมาธิ สวดมนต์ ไปวัดอัมพวันตั้งแต่อยู่ ม.๒ แต่เพื่อครอบครัวดิฉันก็ยอมทานเจตลอดชีวิต (ชิงโข่ว) แต่เนื่องจากการงานดิฉันต้องอยู่ที่ กทม. ดิฉันอยากรู้ว่าดิฉันผิดอะไร ผิดตรงไหน และตอนนี้ดิฉันกำลังตั้งท้องอยู่ เค้าก็ให้เอาออกเพราะดิฉันเป็นมาร และไม่เข้าใจในหลักธรรมะของพวกเค้า นี่หรือคือสิ่งที่ดิฉันได้รับและตอบแทน ดิฉันอยากทราบว่าอนุตรธรรมนี่เป็นอย่างนี้เลย ดิฉันทำดีสักแค่ไหนก็ไม่เคยดี ตั้งแต่แต่งงานกันมาดิฉันไม่เคยได้รับเงินทองค่าเลี้ยงดูอะไรเลย แต่พ่อแม่เค้าต้องการให้ลูกชายได้แต่งงานกับคนในอาณาจักรธรรมด้วยกัน และฉุดช่วยด้วยกัน แต่ด้วยหน้าที่การงานของดิฉัน ทำให้ดิฉันไม่มีเวลาทำอย่างนั้นได้ ตอนนี้ฉันเหนื่อยเหลือเกิน ที่พิมพ์อยู่ก็สงสารลูกในท้องมาก หรือว่าฉันเป็นมารอย่างที่เค้าว่าจริงๆ แต่ฉันสวดมนต์และไปวัดเพื่อรักษาศีล ๘ ทุกครั้งที่มีโอกาส และรักและซื่อสัตย์ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีมาตลอด ไม่ว่าแฟนของดิฉันจะทำให้เสียใจแค่ไหน ทั้งแฟนและดิฉันทำงานทหารทั้งคู่ แต่นายของแฟนก็เข้าข้างแฟนเสียเหลือเกิน ท้อแท้มากคะ

>> ขอขอบพระคุณคำแนะนำทุกๆ ท่านนะคะ ยิ่งอ่านยิ่งสะท้อนใจที่ร้องให้เพราะซึ่งในน้ำใจที่ทุกๆท่านมีและมอบให้นะคะ ดิฉันเคยพาสามีไปปฏิบัติกรรมฐานที่่วัดอัมพวันมาแล้วคะ ทั้งศูนย์เวฬุวัน แต่ก็เหมือนเดิมคะ พาไปบ่อย แต่เค้าก็บอกว่าสู้ทางของเค้าไม่ได้ เหมือนกับเอาก้อนหินไปทับหญ้าสู้มาบำเพ็ญอนุตรธรรมดีกว่า ดิฉันก็ไม่ว่าอะไรคะ แต่ดิฉันก็ยังสวดมนต์อยู่ทุกวัน ก็คือ พาหุงมหากา และอิติปิโสเกินอายุ ทุกวัน แต่สามีบอกว่ายิ่งอยู่ยิ่งไม่มีอะไรดีขึ้น สู้เขาได้บำเพ็ญบุญเป็นคู่บุญกับผู้หญิงในสถานธรรมดีกว่า
ดิฉันอยู่ กรุงเทพฯ อุ้มท้องคนเดียว มันแสนทรมานอยู่แล้ว ไม่มีสามีที่คอยดูแล หากจะให้ดิฉันย้ายไปอยู่เชียงรายคงต้องใช้เวลาเพราะมันไม่ได้ย้ายง่าย ๆ 
แต่กลับมาเจอคำพูดของสามีและพ่อแม่สามีที่มาบอกให้เลิกกันหย่ากันเพราะสาเหตุที่เค้าบอกว่าดิฉันเป็นตัวมาร ทุกวันนี้ดิฉันกินข้าวไม่ลงเลย  ก็คอยอ่านกำลังจากทุกๆท่านที่มอบให้มา ดิฉันเป็นคนต่างจังหวัดคนหนึ่งที่ต้องมาทนทำงานและเจอปัญหาในเมืองใหญ่แบบนี้เหมือนตัวคนเดียวไม่มีใครจริงๆ ดิฉันต้องรับวิบากกรรมนี้คนเดียวกับลูกหรือ ดิฉันไม่ได้ทำกรรมอะไรให้ครอบครัวหรืออนุตรธรรมเลยทำไมถึงมาโทษ มาลงโทษดิฉันกับลูกแบบนี้

>> ขอบคุณพระคุณสำหรับทุกคำแนะนำทุกท่านนะคะ ดิฉันเหมือนไม่มีใครเลย แต่ก็ยังดีที่มีกัลยาณมิตรที่ดีในเวปนี้ ตอนนี้ดิฉันร้องให้ตลอดเวลา อยากอดทนเพื่อให้ลูกมีทั้งพ่อและแม่ แต่เค้าไม่รับดิฉันและลูกเพียงเพราะว่าดิฉันยังไปวัดที่มีพระไม่กินเจ อยู่ และไม่มีเวลาไปศึกษาธรรมะของเค้า ช่วยงานเค้าไม่ได้เพราะหน้าที่การงานและการเงินที่ดิฉันต้องดิ้นรนอยู่เพียงคนเดียว ฉันสงสารลูกที่เค้าเกิดมาไม่รู้เรื่องอะไรไมด้วยเลย ตอนนี้ดิฉันไม่มีปัญญา มันหาย มันมืดมน ไปหมดเลย ตั้งแต่แต่งงานกันมาและคบกันมาดิฉันไม่เคยทำสิ่งใดขัดใจทางสามีเลย ดิฉันมีสามีคนแรก อยากมีสามีคนเดียว ยอมตลอดทั้งญาติดิฉันก็รับธรรมะของเค้าหมดเพื่อครอบครัว ฉันก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์

>> คือเค้าไม่ศรัทธาคนที่ไม่กินเจหน่ะคะ แล้วก็ไม่นับถือพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน แต่นับถือพระศรีอาริย์ ซึ่งดิฉันเคยบอกว่ายังมาไม่ถึงขอนับถือองค์ปัจจุบันคือ พระพุทธสมนโคดมก่อน เค้าก็หาว่าดิฉันยังไม่เข้าใจและต่อต้านเคยโดนกราบเป็นพันๆ กราบมาแล้วนะคะ เพราะถามในสิ่งที่สงสัยเค้าเลยคงคิดว่าดิฉันเป็นมารมาทดสอบ เค้าบอกว่านี่ไม่ใช่ศาสนาพุทธแต่อนุตรธรรมเป็นสิ่งที่สร้างศาสนา เป็นศูนย์รวมจุดเกิดของทุกศาสนาคะ ดิฉันก็ไม่ได้ต่อต้านเลย เค้าให้ทำอะไรก็ทำตามทุกอย่างคะ  แต่เชียงรายมันไกลมาก และดิฉันก็ลางานเพื่อไปงานธรรมะบ่อยๆ ไม่ได้  ด้วยงานในหน้าที่ และค่าใช้จ่าย พอเค้าเห็นผู้หญิงในสถานธรรมที่สามารถ
อยู่ในสถานธรรมได้ตลอดเวลา เค้าก็เลยให้อยากให้ลูกชายเลิกกับดิฉันคะ
และสามีดิฉันก็ยอม เพราะว่าดิฉันไม่สามารถออกไปฉุดช่วย บำเพ็ญบุญร่วมกันกับเค้าได้ นี่หรือคือสิ่งตอบแทนที่ดิฉันยอมอดทนมาทั้งหมด ไม่เคยปริปาก

>> คุณ รุ่งฟ้าสาง คะ ดิฉันตั้งใจแล้วว่าจะไม่ทำลายชีวิตในท้องโดยเด็ดขาดคะ
ขอบพระคุณที่ให้สตินะคะ 
ถึงแม้ว่าตอนนี้มันเหมือนตายทั้งเป็น
จากนี้ถึงแม้ว่าดิฉันจะไม่เหลือสามี...
แต่ดิฉันยังมีกัลยานมิตรที่ดีมากมาย
ในโลกเสมือนจริงนี้...ที่ไม่ปล่อยให้ทรมานจนเกินไป
จะใช้ความดีที่มีอยู่ และตั้งใจทำงานเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูอีกชีวิตหนึ่งที่กำลังจะเกิดมานะคะ ...หากคลอดเมื่อไหร่หวังว่า ทุกท่านก็คงให้กำลังใจ และ เมตาดิฉันอีกเช่นเคยนะคะ 
หมอกำหนดคลอดเดือน พ.ย.๕๔ นี้คะ
ขอให้ความรักความปรารถนาดีที่มีต่อกันส่งผลบุญให้ทุกท่านเจริญในธรรมและทางโลกนะคะ

>> คุณ yogi Playgirl เป็นเรื่องจริงทุกประการคะ
เคยโดยซ้อมเวลาที่สามีโมโหร้ายสาหัสจนแท้งลูกมาแล้วคะ
ตอนนั้นที่เข้า รพ.ก็มีประวัติ 
ถ่ายรูป ตอนช่วงรักษา
และนักสงคมสงเคราะห์เกี่ยวกับสตรีใน รพ.ศูนย์ของจังหวัด
จะเข้ามาช่วยเหลือ แต่ตอนนั้นดิฉันก็ทนคะ 
ดิฉันแต่งงานถูกต้องตามประเพณีทุกอย่าง และจดทะเบียนสมรสกันคะ  หย่ากันแล้วดิฉันไม่ต้องการอะไรหรอกคะ ค่าเลี้ยงดูดิฉันก็ไม่อยากได้แต่แค่อยากให้รับผิดชอบช่วยในเรื่องลูกบ้างเท่านั้นเองคะ
ปล.คุณjoomzaza1 คะ อ่านความเห็นของคุณแล้วอมยิ้มเลยคะ
ก็ยังนึกเลยว่าเราก็อดทนมาได้มากเหมือนกัน

>> คุณน้องต๋าวคะ พวกเค้าบอกว่าดิฉันเป็นมหามารตัวใหญ่ที่มาทดสอบพวกเค้าคะ

>> ตอนนี้ดิฉันได้รับโทรศัพท์จากพ่อที่อยู่ต่างจังหวัดบอกว่า
พ่อและแม่ของอดีตสามีโทรมาต่อว่า เพราะเค้าได้อ่านกระทู้นี้คะ ....
กลัวจังเลยคะ ยอมรับว่ากลัวแล้ว

ดิฉันไม่ได้ทำอะไรเค้าเลยนะคะ แค่มาขอกำลังใจและคำแนะนำความสว่างทางปัญญาเท่านั้นเอง

>> และทุกๆถ้อยคำ ทุกๆ ตัวอักษร มันเป็นความจริงทั้งสิ้น เป็นความสัจจริงล้วนๆ ไม่ได้เติมแต่งและพวกคุณก็รู้ดีว่ามันยังมีอีกมากมาย ดิฉันแค่พูดความจริง เท่านั้นเองคุณก็รู้ว่าฉันไม่ได้โกหกเลย แต่อย่าทำร้ายถึงบุพการีของดิฉันเลยคะ กราบขอร้อง

>> ฉันรู้ว่าพวกคุณอ่านและติดตามกระทู้นี้อยู่ตลอดเวลา
...ฉันยอมแล้ว...ฉันยอมแพ้พวกคุณแล้ว...
ไม่ต้องต่อว่ากันอีกแล้ว...และฉันไม่ได้แว้งกัดอะไรคุณเลย
ฉันขอโทษ..หากพวกคุณไม่พอใจฉัน
ฉันและลูกจะขออยู่เงียบๆแล้ว
....ฉันยอมคุณหมดแล้ว ยอมแพ้แล้วจริงๆ

>> และที่คุณบอกว่าฉันเป็นพวกขาดความอบอุ่น..ก็คงจริง
แต่ฉันอยู่ที่นี่ฉันอบอุ่น..ฉันมีกัลยานมิตรที่ดี ให้คำแนะนำฉันบ้าง ไม่ได้หรือ  ฉันเก็บกด ฉันโดนกระทำมานานหลายปีแล้ว ขอโอกาส ขอพื้นที่ให้ฉันบ้างไม่ได้หรือ   คุณบอกว่าฉันเป็นคนไร้สังกัด ไร้การบังคับบัญชา หรือ? ฉันไม่เข้าใจหรอกที่คุณพูดมามันผิดมากหรือ...
ฉะนั้น...ฉันขอโทษพวกคุณ ขออโหสิกรรมให้ฉัน
ฉันยอมแพ้แล้ว


>> ตอบคุณ พุทธะแท้ค้นพบได้ในจิตตน (boonsiriPOWER)
แล้วคุณรู้หรือคะว่าดิฉันโกหก หรือว่าใส่ร้ายคนอื่น คุณเป็นสามีของดิฉันหรือ
ดิฉันอยู่ในที่แจ้งนะคะ ดิฉันเป็นลูกผู้หญิงคนหนึ่งที่แค่มาระบาย
เพราะดิฉันเป็นฝ่ายถูกกระทำ 
ดิฉันไม่มีพรรคพวกหรอกคะ ดิฉันตัวคนเดียว
ข้อมูลของดิฉันสามารถตรวจสอบได้นะคะ แล้วดิฉันก็ให้ข้อมูลกับทางมูลนิธิปวีณาไปหมดแล้วด้วย เรื่องมัันบานปลายขนาดนี้แล้ว การที่โดนทำร้ายร่างกายเข้า รพ.ย่อมมีประวัติแน่นอน..ดิฉันไม่ต่อว่าคุณหรอกนะคะ ...แต่ตัวดิฉันเป็นฝ่ายถูกกระทำร้ายร่างกายและจิตใจนะคะ หากคุณไม่พอใจ คุณก็ไม่จำเป็นต้องออกมาต่อว่าต่อขานหรอกนะคะ อ้อ..ดิฉันพอนึกคำว่า ค้นพบได้ในจิตตน นี่แล้วหล่ะคะว่าส่วนใหญ่คนที่ันับถืออะไรเค้าพูดกัน หากคุณยังไม่รู้ข้อมูลจริงๆ ก็ไม่ควรออกมาโจมตี ผู้หญิงท้อง คนหนึ่งนะคะ

>> อ้อ..แล้วอีกอย่างที่คุณบอกว่า อาจจะจริงบางเรื่อง อาจจะใส่ร้ายสามีบางเรื่อง
มันอาจจะมีอะไรมากไปกว่านี้ก็ได้...หากคุณรู้ คุณบอกออกมาเลยคะ ทุกท่าน ทกคนจะได้ทราบไงคะ ดิฉันยินดีคะ ที่ให้คุณบอกข้อมูลแก่ทุกๆท่าน ได้รับทราบ ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
ดิฉันทราบนะคะว่าทางสามีดิฉัน และอนุตรธรรมนั้น
เข้ามาอ่าน เข้ามาติดตามเสมอ...ตัวเค้ารู้ดี..มันมีคะมีมากกว่านี้ด้วย...ยังสาธยายไม่หมด

จะให้เอาเพิ่มมากกว่านี้ไหมคะ ดิฉันยังมีอีกหลายเรื่องนะคะ และไม่ได้แต่งปั้นเรื่องด้วยทุกอย่างนั้นมีหลักฐานคะ ทั้งทางเอกสารและพยานบุคคลนะคะ ดิฉันมีตัวตน มีตำแหน่งหน้าที่การงานนะคะ ในการสมัครล็อกอินนั้นดิฉันก็แสกนภาพบัตรประจำตัวข้าราชการนะคะ หากคุณยังไม่จบ ดิฉันก็จะไม่จบนะคะ

>> ดิฉันก็อยากให้เค้าตรวจสอบเหมือนกันแหล่ะคะ
เอาความจริงมาเผยแพร่ เลย
ดิฉันก็อยากให้เค้าออกมาแก้ตัวเหมือนกัน ว่าเค้าจะพูดว่ายังไง
เค้าเคยทำร้ายดิฉันไหม..ทำอะไรบ้าง...
คำพูดจริงไหมที่บอกว่าไปด้วยกันไม่ได้เพราะไม่บำเพ็ญ..
จริงไหม..ที่พูดบอกว่าต้องการคู่บำเพ็ญด้วยกัน
จริงไหม..ที่บอกว่าดิฉันเป็นมาร

จริงไหม..ที่ไม่ต้องการดิฉันและลูก
การที่ดิฉันแท้งลูกนั้นจริงไหม...
จริงไหมที่ดิฉันโดนขอหย่าเรื่อง..อนุตรธรรม เพราะบำเพ็ญไปด้วยกันไม่ได้
ดิฉันโดนทำร้ายมามากมายหลายครั้ง...ต้องการพิสูจน์ความจริงเหมือนกันคะจะได้ไม่ต้องมาว่าใครดีหรือไม่ดี...
ดิฉันก็ไม่ได้ว่าดิฉันดี..แต่ดิฉันก็ไม่เคยทำร้ายใคร..ดิฉันไม่เคยเบียดเบียนใคร
ดิฉันปฏิบัติธรรม..ดิฉันแค่รักษาศีล ๕ แค่นี้พอแล้ว แต่สามีดิฉันเกลียดดิฉัน ไม่รักดิฉัน ดิฉันก็ห้ามเค้าไม่ได้ 
จริงคะดิฉันอาจไม่บำเพ็ญอนุตรธรรม..แต่ทั้งทางญาติดิฉันก็นำมารับธรรมะหมด  สิ่งใดที่ทำแล้วอยุ่ร่วมกันได้สบายใจดิฉันก็ทำ..ดิฉันมัวแต่ทำงาน..หาเงินจุนเจือครอบครัว ยอมอด ยอมทน สามีดิฉันก็รู้ดีว่าดิฉันอยู่ กทม.คนเดียวลำบากขนาดไหนเพียงใด
ดิฉันไม่ผิดศีลธรรมก็แล้วกันคะ

ทั้งหมดจากคุณ thanikaordnance27 

------------------------------------------------

ทีนี้มาดูความเห็นพวกสาวกลัทธิอนุตตรธรรมที่เข้ามาแสดงอาการปกป้องลัทธิโดยไม่คำนึกถึงแม้แต่คนท้องที่ทุกข์ขนาดนี้ ได้แต่กล่าวปรัชญาธรรมะที่สวย ๆ ให้ลัทธิตนดูดีเสมอ


ความคิดเห็นที่ 165

คนที่ทำดี ย่อมได้ดี 
คนที่ทำชั่ว ย่อมได้ชั่ว

คนที่ไม่รู้จริง แล้วให้ร้ายลัทธิหรือศาสนาอื่น ที่สอนให้คนเป็นคนดี คุณก็พึงสังวรต่อผลกรรมอันนั้น 

ท่านทั้งหลายรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าของกระทู้พูดจริง
อาจจะจริงบางเรื่อง อาจจะใส่ร้ายสามีบางเรื่อง
เรายังไม่เคยได้ยินได้ฟังสามีเค้าสักคำ มันอาจจะมีอะไรมากไปกว่านี้ก็ได้

ความเห็นของคนส่วนมาก อาจจะไม่ถูกเสมอไปก็ได้
เช่นในอดีตครั้งกระโน้น คนในสมัยนั้นเชื่อว่าโลกแบน พอมีคนๆหนึ่งคนพบว่าโลกกลม เขาจึงถูกต่อต้านและถูกทำร้าย 

....แต่เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไป จึงต้องยอมรับโดยดุษฎีว่าโลกกลม

เวลานี้คนจำนวนมากก็เป็นกันอย่างนั้น
ยึดติดว่าของๆฉัน ความคิดของฉันดีที่สุด แบ่งแยก ใครไม่เชื่อไม่เห็นตามแบบที่ฉันเชื่อ ฉันก็มองเขาไม่ขึ้น

คนดีจริงๆเค้าไม่บอกว่าคนอื่นไม่ดีหรอกครับ เพราะไม่มีเขา ไม่มีเรา 

เค้ามีแต่สำรวจตนเอง ย้อนมองส่องตนแล้วกลับไปแก้ไขอุปนิสัยความเคยชินที่ไม่ดีของตนเอง

สำหรับผู้อื่นนั้นเราต้องอลุ่มอล่วย และให้บังเกิดเมตตาจิต อยู่เสมอ
คนที่เข้าใจและสัมผัสธรรมได้จริงจะรู้ว่า ธรรมะนั้นไม่ได้เข้าถึงด้วยสิ่งที่มีรูปลักษณ์วัตถุ 

คำพูดหรือคำสอน ก็เป็นสิ่งที่มีรูปลักษณ์อย่างหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ศึกษา แต่ศึกษาแล้วต้องนำไปปฏิบัติ และต้องปล่อยวาง เมื่อค้นพบตัวตนที่แท้จริงแล้ว.................จึงให้ดำรงจิตแห่งพรหมวิหาร 4 อยู่เสมอๆ

...กลับมาถึงเรื่องเจ้าของกระทู้ ผมขออนุญาตไม่ออกความคิดเห็น แค่อยากเตือนสติทุกๆคนว่า ถ้าเราไม่ยังไม่รู้ข้อมูลจริงในครอบครัวเขา และไม่รู้จริงเกี่ยวกับอนุตตรธรรม หรือศาสนาอื่นๆ เราก็อย่าได้สร้างกรรมปากจะดีกว่าครับ
คนมีธรรมะนั้นดูเย็นๆ สุขุมคัมภีรภาพ ยอมรับในทุกสิ่ง
ไม่ใช่โวยวาย ร้องแรกแหกกระเชอ
 โทษนั่น โทษนี่ ตัวฉันถูกอยู่คนเดียว ในใจร้อนรน อยู่ตลอดเวลา ไม่สงบลงได้สักที

ธรรมะที่แท้มีอยู่ในตัวเอง ไม่ต้องแสวงหาจากภายนอก เพียงแต่เราต้องมีอาจารย์ชี้แนะ แล้วให้ฝึกฝนบำเพ็ญปฏิบัติจริง

ไม่ใช่แค่ศึกษาแค่เสี้ยว แล้วนำไปวิพากษ์วิจารณ์ให้เกิดความเสียหาย และเกิดความแตกแยกในสังคม ถ้าเป็นเช่นนี้ความกลับไปศึกษาปฏิบัติบำเพ็ญจริงกันก่อนดีกว่าครับ

จากคุณ : พุทธะแท้ค้นพบได้ในจิตตน (boonsiriPOWER) 
เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 12:35:36


--------------------------------------------

แหมเป็นไงครับเห็นความทุกข์ของผู้หญิงท่านหนึ่งที่ต้องเดือดร้อนแล้วก็เห็นใจเธอที่สุด   แต่เมื่อมาได้ยินน้ำคำพูดจากสาวกลัทธิอนุตตรธรรมที่เข้ามากล่าวซ้ำเติมเธออีกครั้งในตอนท้ายแล้วมันก็ยิ่งน่าสลดสังเวชดีแท้

ปล.
คำว่าย้อนมองส่องตน และ พูทธะในตน เป็นคำที่ใช้บ่อยมากในลัทธิอนุตตรธรรม
และผู้ที่เปิดโปงลัทธินี้จะถูกลัทธิกล่าวว่าเป็นผู้ให้ร้ายธรรมเสมอ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น