วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556

โอวาทซ้อนโอวาทเรื่องง่าย ๆ ใครก็ทำได้

โอวาทซ้อนโอวาท
เรื่องง่าย ๆ ใครก็ทำได้ไม่น่าอัศจรรย์


จากภาพบน ^^เป็นโอวาทซ้อนโอวาทของลัทธิอนุตตรธรรม  เนื่องจากในหัวข้อก่อน ๆ เราได้กล่าวไปแล้วว่าลัทธินี้ขับเคลื่อนความเชื่อด้วยการเข้าทรง  โอวาทต่าง ๆ ที่ทำออกมาสอนกันในลัทธิก็ล้วนแต่มาจากการเข้าทรงเกือบทั้งสิ้นซึ่งใครจะทราบได้อย่างไรล่ะครับว่าไอ้ที่มาสิงสู่พูดจาแจ้ว ๆ อยู่นั่นน่ะเป็นสิ่งศักสิทธิ์มาจากนิพพานหรือผีปอปกันแน่ ?? แต่ลัทธิอนุตตรธรรมเขาก็โฆษณาชวนเชื่อเหลือเกินว่าเป็นเทพมาจากนิพพานซึ่งก็ดูจะเป็นเรื่องโกหกที่เชื่อกันในโลกกะลาของลัทธิเท่านั้น  

การเขียนกลอนแบบนี้เป็นที่นิยมในลัทธิอนุตตรธรรมซึ่งจะเขียนโดยร่างทรง....ซึ่งลัทธินี้ใช้ในการชวนเชื่อหาสาวกเข้าลัทธิมาตลอดและก็ดูเหมือนมีคนหลงเชื่อมากมาย  การเขียนกลอนลักษณะนี้ในลัทธิจะเรียกว่า โอวาทซ้อนโอวาท  โอวาทประเภทนี้น่าสนใจอยู่ที่ว่ามีการเขียนกลอนที่สามารถถอดใจความข้างในออกมาได้อีกครั้งหนึ่งโดยเมื่อเขียนเสร็จแล้วจะขีดเส้นครอบที่คำทีละคำแล้วลากเส้นเชื่อมกันก็จะได้คำใหม่หรือรูปออกมาใหม่หนึ่งรูปจากนั้นก็จะถอดความจากรูปอีกทีหนึ่งก็จะได้กลอนเล็กออกมาอีกครับ  

ลัทธิอนุตตรธรรมมักจะโฆษณาโอ้อวดว่าผู้ที่จะเขียนโอวาทเช่นนี้ได้ต้องเป็นสิ่งศักสิทธิ์เป็นอรหันต์มาจากนิพพาน..!!! แถมยังเอาชื่อสิ่งศักสิทธิ์องค์ต่าง ๆ มาแอบอ้างเป็นผู้เขียนเสียด้วย  สิ่งที่ลัทธินี้โฆษณาล้วนแต่โกหกทั้งสิ้นเพราะการเขียนกลอนซ้อนกลอนแบบนี้ไม่น่าอัศจรรย์ตรงใหนเลยครับ  ใคร ๆ ก็เขียนได้ครับกะอีแค่เขียนกลอนเด็กประถมเขาก็เรียนกันแล้ว  ทางผู้จัดทำเองก็เขียนได้ง่าย ๆ รวมทั้งในที่ต่าง ๆ ก็มีคนที่เขียนได้เยอะแยะไปครับ...เขียนโดยคนธรรมดานี่ล่ะไม่ต้องอุปโลกตัวเป็นเจ้าฟ้าเจ้าสวรรค์ที่ใหนก็ได้ครับ   ว่าแล้วก็ขอยกเอากลอนแบบง่าย ๆ มาให้ดูหน่อยแล้วกันครับ เอาแบบกลอนรัก ๆ เอาใจวัยรุ่นก่อนเนอะ 


จากภาพบน..เป็นกลอนซ้อนกลอนแบบเดียวกับในลัทธิอนุตตรธรรม ถอดออกมาเป็นรูปหัวใจจากนั้นก็ถอดจากหัวใจออกมาเป็นกลอนเล็กอีกครั้งนะครับซึ่งเป็นแบบง่าย ๆ ครับที่เพื่อน ๆ ก็ลองหัดเขียนดูได้ครับ   ต่อไปเดี๋ยวลองไปดูกลอนจากเพื่อนเราอีกท่านหนึ่งที่เขียนไว้ครับ เป็นโอวาทซ้อนโอวาทจากเพจเฟสบุคของคุณ "ตีแผ่ความจริงลัทธิธรรมปฏิรูป"


ถอดความจากภาพบน 
โอวาทแห่งความเป็นจริง 

วิถี ทาง อัน ทราม พา จม หลง ผิด ติด บ่วง ภัย มารยา

อนุตร มาร ย่อม มี สาม สิ่ง ใช้ อ้าง ชื่อ สร้าง ชอบ ธรรม์

คน เชื่อ ตาม สิ่ง เท็จ ให้ ผัน พลัน พ้น จาก พุทธ มรรค

ปิด ใจ มืด มัว พินิจ ธรรม ปลอม พา เห็น ผิด เป็น ชอบ

หาก ยอม ปลง ย่อม พ่าย อนุตร ธรรม มาร กอบ กลืน ธรรม วินัย

จึง ชี้ เผย ให้ ปวง ชน รับรู้ เรื่อง อนุตร ธรรม กับ ความจริง

ถึง เหตุ ชักนำ ร้าย เหลือ หาก ยัง นอนใจ ย่อม เกิด มหันต ภัย

พระ ศาสน์ อัน สูงส่ง คง พินาศ ด้วย มาร แฝง เข้า ทำลาย หนัก

ชั่ว ลูก สืบ หลาน ไม่ พบ ซึ่ง พระ ธรรม อัน วิสุทธิ์ พร้อม

จัก กล่าว แจ้ง เป็น เวร กรรม แห่ง สัตว์ ผู้ มาก ด้วย มลทิน

การ โปรด คน หลง ยึดถือ สิ่ง ชั่ว ว่า ดี เป็น การ ยากยิ่ง

เพราะ สำนึก คุณ พุทธ ธรรม จึง หวัง คน หลง ผิด แจ้ง จริง

อัน ช่วง อายุ ศาสน์ นาน หนัก ภัย ชักนำ มล้าง ให้ สูญ สิ้นได้

แม้น พบ อุปสรรค อีก ขวาก หนาม มา สู่ ย่อม ทน กอปร กิจ

"ประจักษ์ ชี้ นาม หมู่ เหล่า ผี เจ้า อสูร จอม ปีศาจ มาร อัน"

อ้าง แอบ แสดง เป็น สิ่ง สูง ลวง หลอก คน หลง เชื่อ ตาม

ปน ปลอม ทอง กับ กรวด สอน ธรรม ปฏิรูป เพราะ หวัง ประโยชน์ ผล

อ้าง เจ จัก ฉาก หลง ผิด ถลำ ร้าย มาร แฝง ฝัง ร่าง

สาวก ห่าง มรรค ไกล ผล เวร บาป ยัง คง ตาม ผูก ติดไว้

สิ่ง ถูก กลับ ต้าน ยึด แนว ทาง มาร หนุนนำ ให้ ขวาง ปัญญา

ไฉน พา จิต ตน ตาม "มาร ลู่ กง ฉัง จื่อ ซี ร้าย"

เทพ ปลอม เหลือ คณา จัก กิน ชีพ เคี้ยว กลืน ถูก ย่อม สลาย

สิ้น หนัง เนื้อ กระดูก ถูก สูบ ถ้วน วิญญาณ จัก เป็น มาร กาย

สิ่ง ท้าย ย่อม สบ ทุกข์ ใน อบาย ภูมิ นรก ชั่ว กาล นาน ฯ


เส้นลากภายใน เป็นพระโอวาทซ้อน คำว่า " S H I T ! "



จากภาพบน

โอวาทแห่งความเป็นจริง 

(จาก พระโอวาทซ้อนพระโอวาท คำว่า SHIT!)

อนุตร ธรรม ให้ สาม สิ่ง มัว ปลง ใจ เชื่อ

มาร ชักนำ ร้าย เหลือ หาก ยัง คง ไม่ แจ้ง

เป็น เวร กรรม แห่ง พุทธ ศาสน์ อีก นาน หนัก

ภัย คน ชักนำ สู่ คน เพราะ มาร คง หนุนนำ

ร้าย ถลำ ผิด หลง ย่อม ถูก กลืน เคี้ยว กิน ฯ

..........................................................

พระโอวาท ซ้อนพระโอวาท "K.O." (Knock Out)

อนุตร มาร เป็น ภัย ร้าย
ชักนำให้คนผิดหลง
คนพุทธหากมัวปลง
ไม่นานคงถูกกลืนกิน ฯ

..........................................................

บทอาศิรวาท (เพิ่มเติม)

ส่งเสด็จ อนุตรธรรม มารดาร้าย
กับลูกไส้ เปรตผี อสูรสิง
จงรีบกลับ นิพพานลวง ป่วงภพจริง
อย่าได้หยิ่ง นึกว่ารอด หรือปลอดภัย

ล้มตะเกียง ล้างสถาน จัดการที่
โต๊ะเก้าอี้ โละขน จนชุดใหญ่
เรียกซาเล้ง ขับตระเวน ประเคนไป
ถวายให้ พระอาราม ทำบุญเอย ฯ

คณะตีแผ่ความจริง ลัทธิธรรมปฏิรูป
ถล่มสถานธรรมจอมปลอมแห่งมารลวงหลอกพุทธศาสนิกชนให้หลงผิด
ปัจจุบัน สถานธรรมอันล้มลงเพราะความเป็นจริง ได้ปรากฏขึ้นแล้ว
ปัจจุบัน ผู้กลับใจจากมิจฉามรรคได้ปรากฏขึ้นแล้ว
ปัจจุบัน ความเป็นจริงได้ตีแผ่กว้างไพศาลออกไปแล้ว
อนาคต ย่อมปรากฏ นิมิตหมายที่ดียิ่งกว่าปัจจุบันนี้ โดยแท้เทียว ฯ

ฮุ ฮุ ถอยยยยยยยยยย

------------------------------------------------

เห็นใหมครับว่า โอวาทซ้อนโอวาทหรือกลอนซ้อนกลอน แบบนี้เขียนง่ายจะตายไปครับไม่จำเป็นต้องเป็นเทพมาจากนิพพานอย่างที่ลัทธินี้โกหกก็ได้ครับ  คนธรรมดาที่ไม่ได้อยู่ในลัทธิและไม่ต้องกินเจนี่ล่ะทำได้ทุกคน ที่สำคัญคือดีกว่าที่เขียนในลัทธิมากมายครับ เพราะอะไร ก็เพราะเขียนด้วยบุคคลที่มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์  

ไม่เหมือนในลัทธิอนุตตรธรรมที่ต้องทำเป็นว่าเรียกภูตผีที่ใหนมาสิงสู่จากนั้นจิตใจทำอะไรก็ไม่รู้ตัวไม่มีสติสัมปชัญญะเขียนกลอนไปสักพักก็วิ่งเต้นไปแจกท๊อฟฟี่บ้างไปร้องให้บ้าง หรือไปหัวเราะบ้าง.55  หลายอาการนะครับ ?? พอเวลาเจ้าทรงจะถอนออกก็ล้มตึงหัวคะมำลงไปเฉย ๆ ถ้าไม่มีคนคอยเดินตามรอรับร่างทรงก็คงจะถึงแก่ชีวิตแน่แท้ !!!
ภาพบน : สภาพร่างทรงของลัทธิอนุตตรธรรม  
ตอนพูดอะไรทำอะไรเจ้าของร่างก็ไม่รู้เนื้อรู้ตัวไม่มีสติ  พอเวลาเจ้าทรงถอนออกก็ล้มคะมำหน้าหงายลงไปไม่เป็นท่า..ก็แล้วพวกเราก็เลือกดูสิครับว่าจะฟังธรรมมะจากคนที่มีสติปชัญญะหรือจะฟังธรรมมะจากคนประเภทนี้  

จะเข้าวัดฟังพระเทศน์ให้ฟัง 
หรือจะเข้าสถานธรรมให้ผีมาเทศน์ให้ฟังครับ ???


ขอบคุณ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น