วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556

จากมานิถึงเม้งก่า.ถึงอั่งยี่



สรุปงานเสวนาเรื่อง 
จากเม้งก่า ถึงอั้งยี่สู่ประเพณีกินเจไทย

บทความโดย มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์
-เสวนาเรื่องจาก เม้งก่า ถึง อั้งยี่ สู่ประเพณีกินเจไทย วันศุกร์ที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๒ โดย  ผลึกมณฑล เจ้าของนามปากกา แปลงนาม และ รศ.แสงอรุณ  กนกพงศ์ชัย  แห่งมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ


ในเรื่องของการเกิดลัทธิมณี หรือ มาณีกี(Manicheism) ซึ่งเป็นลัทธิเก่าแก่ที่มีต้นกำเนิดในประเทศเปอร์เซียว่าเป็นต้นกำเนิดการกินเจ  โดยลัทธิมณีนี้ได้ผสมผสานความเชื่อในศาสนาโซโรอัสเตอร์(นับถือเทพอสุรมัสดา เทพแห่งแสงสว่าง) กับความเชื่อของคริสต์ศาสนาและพุทธศาสนาเข้าด้วยกัน  ก่อนที่จะเผยแผ่เข้าสู่ประเทศจีนผ่านทางสายไหมตั้งแต่ยุคราชวงศ์จิ้น ราว พ.ศ.๘๘๐ และเมื่อลัทธิมณีได้ถูกทำลายลงในรัชสมัยของพระเจ้าอู่จ่ง ลัทธิมณีถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นลัทธิเม้งก่า  แต่ก็ยังคงรักษาคำสอนของลัทธิมณีไว้แต่ได้แปลงนามองค์อสุรมัดดาเป็นเป็นองค์หมิงอ๋อง  ที่จะมากำเนิดใหม่ยามคับขันในอนาคต  ซึ่งลัทธิเม้งก่าดูเป็นจีนมากกว่าลัทธิมณีที่เป็นต้นกำเนิด  แต่เนื่องจากคำสอนของลัทธิเม้งก่าเน้นส่งเสริมให้ศาสนิกชนลุกขึ้นแข๊งขืนต่ออำนาจที่ไม่ชอบธรรมซึ่งรวมทั้งอำนาจรัฐ  ลัทธินี้จึงถูกเพ่งเล็งและถูกปราบปรามอย่างหนักอันเป็นเหตุให้ลัทธิเม้งก่ามีสถานะเป็นลัทธิใต้ดินที่เผยแผ่สืบทอดกันอย่างลับ ๆ

ต่อมาในปลายรัชสมัยราชวงศ์หยวน  ลัทธินี้มีส่วนในการโค่นล้ามราชวงศ์หยวนไดสำเร็จจน  จูหยวนจัง  ที่เป็นผู้นำในการปฏิวัติจากการส่งเสริมของลัทธิเม้งก่าได้เป็นผู้ตั้งราชวงศ์หมิง  และปราบปรามลัทธินี้ลงจนหมดสิ้น  แต่หลักความเชื่อของลัทธิมณียังได้หลอมตัวเข้ากับความเชื่อดั้งเดิมของพื้นบ้านจีนเกิดเป็นสำนักความเชื่อและลัทธิใหม่หลายลัทธิเพื่อเร้นจากการกวาดล้างของฝ่ายรัฐ  หลายสำนักที่เสื่อมสูญไปกับกาลเวลา  แต่ลัทธิที่ยังคงสืบสายมาจนถึงปัจจุบันโดยมีจารีตความเชื่อ และวัตรปฏิบัติให้เห็นเค้าของลัทธิมณีมี ๒ สายคือ ลัทธิเมฆขาว และ ลัทธิบัวขาว  ทั้งสองลัทธินี้ข้างต้นพัฒนาไปเป็นลัทธิกินเจ ต้นกำเนิดโรงเจสำนักต่าง ๆ ที่เป็นตัวผลักดันให้มีการประกอบพิธีและเทศกาลกินเจของชาวไทยเชื้อสายจีนในภาคกลางของไทย

ดังนั้นการกินเจจึงมีรากฐานมาจากความเชื่อเรื่องหมู่ดาวที่เกี่ยวกับหยิน-หยาง  ที่สัมพันธ์กับความเชื่อของพลังอำนาจจักรวาลที่มีผลต่อสุขภาพและยังสัมพันธ์กับความเชื่อของลัทธิบูชาแสงสว่าง  อันมาประกอบกันเป็นความเชื่อในประเพณีกินเจ  ที่ปรากฏในปัจจุบัน เช่น การไส่ชุดขาว  การบูชาสัญลักษณ์ต่าง ๆ ซึ่งบางส่วนสัมพันธ์กับขบวนการอั้งยี่ซึ่งรับเอาความเชื่อของลัทธิเมฆขาวและลัทธิบัวขาวในยุคหลังมาปฏิบัติ  

ด้วยเหตุนี้การกินเจจึงมีความน่าสนใจ
มากกว่าการกินผักอย่างที่รับรู้กัน


 .............___________________________................



ข้อความนี้ตัดมาเพียงบางส่วนหากต้องการดูฉบับเต็มติดตามได้ที่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น