ภาพบน^^หนังสือของลัทธิอนุตตรธรรมเรื่อง ไตรรัตน์ หน้า 38
อู๋ ไท่ ฝอ หมีเล่อ - สัจจคาถาลวงโลก
เขียนโดย..ตีแผ่ความจริงลัทธิธรรมปฏิรูป
นี่เป็นสิ่งที่เขาอุปโลกว่า
ภาพบน^^หนังสือของลัทธิอนุตตรธรรมเรื่อง ไตรรัตน์ หน้า 39
ตามคำกล่าวอ้างตามรูป เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ และเป็นการพยายามสร้างคาถาป
**ตามที่อ้างว่ายุคเขียว มีสัจจะคาถา คือ "อู่เลี้ยงโซ่วฝอ" (無量壽佛)
คำว่า อู่เลี้ยงโซ่ว (無量壽) แปลได้ว่า อายุที่ไม่มีประมาณ หรือ อมิตายุส
คำว่า ฝอ หรือ ฝวอ (佛) แปลว่า พุทธะ หรือ พระพุทธเจ้า
ดังนั้น "อู๋เลี้ยงโซ่วฝอ" (無量壽佛) แปลว่า "พระอมิตายุสพุทธะ" ซึ่งแปลว่า พระพุทธเจ้าผู้ทรงมีพระชนมา
(ขอเพิ่มเติมจากเจ้าของเว็บเอง >>แสดงให้เห็นอีกอย่างว่าคาถาของลัทธิบทนี้มีความขัดแย้งกันเองในตัว)"
**ส่วนในยุคแดง ที่บอกว่ามีสัจจะคาถา คือ "หนานอู่อาหมีถัวฝอ" (南無阿彌陀佛) หรือ "หนานมออาหมีถัวฝวอ"
คำว่า หนาน มอ (南無) คือ นะโม
คำว่า อาหมีถัวฝอ (阿彌陀佛) คือ พระอมิตาภพุทธเจ้า
ดังนั้น "หนาน มอ อา หมี ถัว ฝอ" (南無阿彌陀佛) คือ "นะโมอมิตาภพุทธะ = ขอนอบน้อมแด่พระอมิตาภพุทธเ
(เพิ่มเติมจากเจ้าของเว็บเอง >>ตามคาถาบทนี้ก็ไม่ได้สื่อหรือเกี่ยวข้องกับพระโคดมพุทธเจ้าที่เขาอ้างกันว่าเป็นผู้ครอ
ซึ่งคำสวดดังกล่าว เป็นที่นิยมสวดกันทั่วไปของ
โดยมีนิกายเฉพาะในพุทธมหายา
ดังนั้น คาถาตามที่อ้างนี้ ไม่่ใช่เรื่องกรณีส่งไปนิพพ
ถาพบน^^สัจจคาถาแห่งยุคขาวของลัทธิอนุตตรธรรม
ดังนั้น เพื่อสืบทอดเจตนารมดั้งเดิม
---------------------------------------------------------------------------
อู่ ไท่ ฝอ หมี เล่อ (無 太 佛 彌 勒)
...ขอให้ผู้นับถือ เชื่อถือ จงสวดกันทุกครัวเรือน และจะนำภาพขั้นตอนการประกอบ
---------------------------------------------------------------------------
คำว่า อู่ หรือ บ่อ (無) หมายถึง อู่จี๋ หรือ บ่อเก๊ก (無極) ซึ่งแทน อู่จี๋เหล่าหมู่ หรือ บ่อเก๊กเหล่าบ้อ (無極老母) คือ พระแม่อนุตรธรรมารดา ของลัทธิอนุตรธรรมนี้
คำว่า ไท่ หรือ ไถ่ (太) หมายถึง ไท่จี๋ หรือ ไท่เก๊ก (太極) ซึ่งพบเห็นสัญลักษณ์ได้จากเ
คำว่า ฝอ (佛) หมายถึง ฝวอทอ (佛陀) หรือ พุทธะ ในที่นี้ เขาให้หมายถึงบรรดาพุทธะทั้
คำว่า หมีเล่อ (彌勒) หมายถึง หมีเล่อฝอ (彌勒佛) หรือพระพุทธเมตไตรย ที่ยกย่องกันเป็นพุทธะผู้คร
แต่ตามความเป็นจริงในศาสนาพ
จากสัจจะคาถา ห้าคำ สี่ความหมายนี้ เป็นภาษาจีนกลาง ในแบบจีนๆ เพราะต้นกำเนิดลัทธิ คือ จีนแผ่นดินใหญ่ และเขาถือกันว่าเป็นศุนย์กล
เช่นในยุคเขียว ที่ว่า อู่เลี้ยงโซ่วฝอ นั่นเป็นคำแปลความหมายมาจาก
ที่เขาอ้างว่า มีสวดกันมาแต่ตอนนั้น ในยุคนั้นยังเป็นไปไม่ได้ และยังไม่มีคำภาษาจีนว่า อู่เลี้ยงโซ่วฝอ เลย แม้แต่ในสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ร
ดังนั้น ...คาถาแรก เป็นเรื่องโกหกพกลม
ส่วนในยุคแดง ที่ว่า หนานมออาหมีถัวฝอ นั่นเป็นคำมาจากรากสันสกฤตเ
เพราะองค์ภาวนามีหลากหลายอย่าง แต่ที่เขายกมาเท่านี้ เพราะเจ้าลัทธิต้นสาย รู้จักแต่เพียงแค่นี้ และอ่านภาษาสันสกฤตไม่ออก ไม่เข้าใจความหมาย ไม่เคยลงศึกษาความในพระไตรปิฏกข้างฝ่ายมหายานมาเลย แล้วก็อ้างไปตามเรื่องตามรา
ส่วยคาถายุคขาวปัจจุบัน มีคำว่า อู่ - ไท่ หมายถึง อู่จี๋ - ไท่จี๋ ที่มีต้นเค้ามาจากทางคติทาง
คาถาสามส่วนนี้
จึงเป็นเรื่อง โป้ปดมดเท็จ ...อีกแล้ว
จึงเป็นเรื่อง โป้ปดมดเท็จ ...อีกแล้ว
ภาพบน^^หนังสือของลัทธิอนุตตรธรรมเรื่อง ไตรรัตน์ หน้า 50
ลองมาดูกันต่อถ้าใครอยากทราบว่าถ้าอย่างนั้นลัทธิอนุตตรธรรมมีหลักในการบำเพ็ญภาวนาเพื่อนิพพานอย่างไรก็ต้องดูจากภาพบน
การบำเพ็ญธรรมของลัทธิอนุตรธรรม คือการยึดใน (สูตรสำเร็จ)
จุดญาณทวาร
สัจจคาถา (อู๋ ไท่ ฝอ หมีเล่อ)
และลัญจกร + ใจแบบ "ทารก"
เขาย้ำคำว่า "ทารก" ที่ว่าสื่อใจถึงฟ้า คงเปรียบประดุจ "บุตร" หรือ "ลูก" (สาวกลัทธิ) วัยทารก ที่ร่ำร้องเรียกหา "แม่" (ธรรมมารดา) ด้วยมายาการแบบเด็กๆ
และขอย้ำว่า ดวงจิตทารก ไม่ได้มีพื้นฐานบริสุทธิ์ สะอาด หมดจด แต่เป็นจิตที่มีกิเลสเทียมเท่าผู้ใหญ่ เพียงเพราะมายาต่างๆ ยังไม่ถูกปรุงแต่งตามจิตให้ชัดเจน และแสดงออกได้เท่าผู้ใหญ่
ทารกทั้งหลาย จึงยังได้แต่ร้องอ้อแอ้ดูไร้เดียงสา แต่ก็พร้อมจะปรุงแต่งทุกสิ่ง และนั่นไม่้ใช่ความบริสุทธิ์ แต่เป็นความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา = จิตทารก ไม่ใช่วิสุทธิจิต และ จิตทารก พาให้นิพพานไม่ได้ แต่พาให้เกิดภพ-ชาติ ได้ตลอดเวลา เป็นการพร้อมจะเวียนว่ายทุกขณะจิต
ในไตรรัตน์ของลัทธินี้ ได้กล่าวถึง ญาณทวาร และสัจจคาถาไปแล้ว เหลือส่วนของลัญจกร คือ ท่ามือ จะนำมาชี้แจงว่ามีอะไร หมายถึงอะไร และความเป็นมาตามความเป็นจริง ตามที่เขาเอามาใช้ในแต่ละยุค ในโอกาสอันใกล้นี้...
ขอเพิ่มเติมจากเจ้าของเว็บเอง>> ..การที่ลัทธินี้กล่าวว่าทำจิตให้เหมือนเด็กแรกจึงจะนิพพานได้ก็ต้องกล่าวก่อนนะครับว่าเป็นความเชื่อที่ผิดมหันต์เพราะจิตทารกก็ยังมีกืเลสเช่นกัน ถ้าจิตเด็กทารกบริสุทธิเป็นนิพพานจริงป่านนี้เราทุกท่านก็คงจะเเป็นพระอรหันต์กันตั้งแต่ในท้องแม่แล้วครับคงไม่มีใครโตกันมาถึงป่านนี้หรอกครับ แต่นี่ก็เวียนเกิดเวียนโตมาหลายภาพชาติแล้วก็ยังไม่พ้น ตามหลักพุทธศาสนาไม่เคยบอกว่าจิตทารกไม่มีกิเลสหรือหลุดพ้น แต่บอกเพียงว่าผู้ที่ละสังโยชน์ 10 ประการ แจ่มแจ้งอริยะสัจ4 จึงได้ชื่อหลุดพ้น
.......................__________________________.........................
ที่มา>>ตีแผ่ความจริงลัทธิธรรมปฏิรูป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น