วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ความแตกต่างของลัทธิอนุตตรธรรมกับคริสต์ศาสนา



ความแตกต่างระหว่าง
ลัทธิอนุตตรธรรมกับคริสต์ศาสนา 

เขียนโดย...มหาวัด


ลัทธิอนุตตรธรรม>"พระอนุตตรธรรมมารดา" หรือ "พระแม่องค์ธรรม" หรือ "เหล่าหมู่" เป็นพระเจ้า
คริสต์ศาสนา> มีพระเจ้า ชื่อว่ายโฮวาห์ ชาวคริสต์มักเรียกว่าพระบิดา ทั้งนี้เป็นเพราะเป็นค่านิยมของสังคมที่ชายเป็นใหญ่กว่าหญิงจึ่งมักจะเข้าข้างตัวเองว่าพระเจ้าเหมือนผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เพราะชาวคริสต์เชื่อว่าพระเจ้าสร้างมนุษย์ตามพระฉายาลักษณ์ของพระองค์นั้นเอง อย่างไรก็ตามว่าตามคัมภีร์แล้ว พระเจ้าไม่ใช่ทั้งหญิงและชาย ไม่ใช่จิตใช่สสารและพลังงาน



ลัทธิอนุตตรธรรม>
พระแม่องค์ธรรมเป็นผู้เปิดเผยธรรมะแก่ศาสดาทั้งหลาย
คริสต์ศาสนา>
ไม่รับรองศาสดาศาสนาอื่น พระยโฮวาห์ทรงเปิดเผยแผนการและข้อปฏิบัติทางศีลธรรมแก่ศาสดาพยากรณ์ แต่ในกรณีพระเยซูนั้นต่างออกไปพระองค์ไม่ใช่ศาสดาพยากรณ์ พระองค์เป็นพระเจ้านั้นเองลงมาเกิดเป็นมนุษย์ จึ่งไม่มีการเปิดเผยข้อธรรมแก่พระเยซู แต่พระเยซูนั้นแหละคือพระธรรมที่มาบังเกิดเป็นพระเจ้าเพื่อแสดงหมายสำคัญและไถ่บาปเพื่อให้มนุษย์ได้พบกับความรอด



ลัทธิอนุตตรธรรม>
ธรรมาจารย์ ลู่จงอีคือพระภาคหนึ่งของพระศรีอริยเมตไตรย(บางครั้งลัทธิก็ไม่ได้บอกว่าเป็นแค่พระภาค แต่กลับบอกว่าเป็นพระศรีอารีย์เมตไตรยลงมาเกิด)
คริสต์ศาสนา>
พระเยซูคือพระเจ้า ไม่มีความเรื่องพระศรีอริยเมตไตรย การบำเพ็ญบารมีพระโพธิสัตว์เพื่อเข้าถึงการตรัสรู้ในอนาคต


ลัทธิอนุตตรธรรม>
ปัจจุบันสิ้นยุคของพระศากยมุนีแล้ว เป็นยุคของพระศรีอาริยเมตไตรย 
คริสต์ศาสนา>
ไม่มีความเชื่อเรื่องยุคใดๆๆทั้งสิ้น แต่เชื่อว่าพระเจ้าสร้างโลกเพียงครั้งเดียว มียุคเดียวมาตั้งแต่ต้น และจะสิ้นสุดลงในไม่ช้าในวันพิพากษาหลังการมาของพระคริสต์ ไม่สนับสนุนให้ไหว้รูปเคารพหรือสิ่งอื่นใดนอกจากพระเจ้



ลัทธิอนุตตรธรรม>
การปฏิบัติในลัทธิอนุตตรธรรมเป็นบุญใหญ่กว่าและเข้าถึงนิพพานได้ง่ายกว่าการเจริญสติปัฏฐาน
คริสต์ศาสนา>
มีการตีความแผ่นดินพระเจ้าได้หลายนัย เพราะเยซูสอนแผ่นดินพระเจ้าในนัยที่เป็นทั้งภาษาคนและภาษาธรรมอาจจะตีความให้ลงกับนิพพานก็ได้ หรือ ขัดแย้งก็ได้ เพราะพระเยซูไม่เคยอธิบายตรงๆๆ แต่ตรัสเป็นนัยๆๆให้ตีความเอาเองในลักษณะคำเปรียบเปรยและอุปมา ไม่ได้สนใจเรื่องบุญเรื่องบาป เพราะพูดเรื่องเหนือขึ้นไปกว่านั้นเหมือนพุทธศาสนา(กรุณาดูเยเนชิสเรื่องผลไม้แห่งการรู้ดีรู้ชั่วที่นำพาไปสู่บาป) จึ่งไม่ได้สอนว่าต้องมีบุญมากๆๆด้วยการทำแบบนี้แล้วจะเข้าถึงแผ่นดินของพระเจ้าได้ แต่สอนให้เชื่อและวางใจในพระคริสต์ พระคริสต์เป็นทางเดียวที่จะล้างบาปและทำให้มนุษย์บังเกืดใหม่จนพระเจ้าโปรดให้ชอบธรรม จนเข้าถึงแผ่นดินพระเจ้าได้


ลัทธิอนุตตรธรรม> ผู้ที่รับอนุตตรธรรมจะได้บุญใหญ่ส่งถึงบรรพบุรุษ 7 ชั่วรุ่น ถึงลูกหลานอีก 9 ชั่วรุ่น ให้พ้นทุกข์ได้
คริสต์ศาสนา> มนุษย์ทุกคนล้วนมีบาปแต่กำเนิดเพราะสืบสายมาจากเอวาและอดัม แต่ล่ะคนจะต้องค้นหาความรอดด้วยตนเองผ่านพระเยซูคริสต์ ไม่มีการส่งผ่านความรอดให้ใครได้ แต่ละคนต้องรับผิดชอบตัวเองโดยกระทำตามพระทัยของพระเจ้าที่ผ่านทางการเปิดเผยของพระเยซูคริสต์จนพระเจ้าโปรดให้ชอบธรรม


ลัทธิอนุตตรธรรม> ผู้ปฏิบัติในลัทธิอนุตตรธรรมควรกินเจ
คริสต์ศาสนา> ไม่สนับสนุนการกินเจแต่ก็ไม่ห้าม โดยถือว่าสิ่งที่กินเข้าไปไม่ได้ทำให้มนุษย์เป็นมลทินแต่สิ่งที่ออกมาจากใจมนุษย์ที่มีบาปและสกปรกต่างหากที่เป็นมลทิน


ลัทธิอนุตตรธรรม> โอวาทและคำสอนของอนุตตรธรรมส่วนใหญ่มาจากการเข้าทรง
คริสต์ศาสนา>ไม่พูดถึงเรื่องการทรง โอวาทและคำสอนมาจากการเปิดเผยของพระเจ้าเองหรือส่งผ่านเทวทูตมายังศาสดาพยากรณ์ กรณีของพระเยซูไม่มีการรับโอวาท เพราะพระองค์คือพระเจ้าลงมาเป็นมนุษย์เสียเองนั้นเอง คำสอนของพระองค์จึ่งเป็นพระวจนะจากพระเจ้าเปล่งออกมาเองโดยตรง ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของวิธีการสอนของพระเยซูในช่วงท้ายของชีวิต ก่อนหน้านั้นพระองค์พูดประหนึ่งว่าพระองค์รับโอวาทและคำสอนมาจากการเปิดเผยของพระเจ้า แต่ต่อมาทรงกล่าวว่าเราจะเปิดเผยความจริงแก่ท่านว่า เรานั้นแหละคือพระเจ้าที่มาบังเกิดเป็นมนุษย์เพื่อไถ่พวกท่านจากบาป ผ่านความตายของเรา




................____________________...................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น