วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

รูบแบบการเข้ามาแถของสาวกลัทธิอนุตตรธรรม



สาวกลัทธิอนุตตรธรรมที่อธิบายตัวเองไม่ได้จะมีรูปแบบในการเข้ามาแถดังนี้

1 เข้ามาด่า แบบหนัก ๆ แบบจัดเต็มอัดอั้นมานานเป็นพันปี สัตว์เลื้อยคลานยั้วเยี๊ยโดยคนกลุ่มนี้จะมองเห็นคนรอบข้างกลายเป็นมาร เป็นสัตว์นรก เป็นคนที่ต้องสาบแช่งให้ตายทุกวัน

2.เข้ามาด่าแบบปัญญาอ่อนแอบแบ๊วตามประสาคนไม่หยาบมากแต่ก็มีส่วนร่วมบ้างเพราะอัดอั้นเหมือนกัน..คนกลุ่มนี้เข้ามาด่าจนจบแล้วยังจับใจความตัวเองไม่ได้สรุปความตัวเองไม่ได้ สุดท้ายก็จะแบ๊วหายไปตามกาลเวลา..อ้อ..แล้วคนประเภทนี้จะเขียนหนังสือไม่ค่อยถูกเท่าไรถึงแม้จะแก่แค่ใหนก็ตามแต่ความรู้เรื่องการเขียนยังเทียบเท่าเด็กอนุบาลอยู่

3 เข้ามาคร่ำครวญ พร่ำเพร้อ แบบต้องการให้เห็นความดีของลัทธิ 

4. เข้ามาแอ้บแบ๊ว แบบทำเป็น ผู้น้อย ถามนั่นนี่แต่ความจริงลองดูที่คำถามนะครับว่า ถามเพื่อต้องการโยงไปสู่ประเด็นไหนหรือบางครั้งก็โยนหินถามทางเท่านั้นล่ะ และสุดท้ายก็อาจจะจบด้วยประโยคทองว่า..ผู้น้อยร่วมศึกษา?

5. เข้ามาอธิบายมั่ว ๆ ข้อมูลก็มั่ว คือถ้าพวกนี้ส่วนมากจะเป็นผู้ใหญ่ในลัทธิ อาจเป็น ถันจู่ เจี่ยงซือ แม้แต่เตี่ยนฉวนซือ หรือคนที่อยู่ในลัทธิมานานพวกนี้จะมีปรัชญาและวาทะที่เก่งกาจพอควร แต่คุยไปเหอะครับจับประเด็นเขาให้ถูกก็จะทราบว่าไม่มีแก่นสารและไม่มีความจริงเลย ..ส่วนข้อมูลพวกประเภทนี้จะเยอะนะครับบางคนอาจหลงข้อมูลไปเลย แต่ดูให้ดีเถอะครับว่าข้อมูลพวกนี้น่ะมั่วทั้งหมดเพราะจะเป็นข้อมูลที่เอามาจากลัทธิซึ่งมันเป็นข้อมูลที่ดัดแปลงมาแล้วทั้งนั้นแต่ไม่มีหลักฐานที่ไหนมาอ้างอิงหรือรับรองทั้งนั้น ให้ลองสืบสาวไปต้นฉบับในทุก ๆ ศาสนานะครับจะทราบว่าเดิมทีไม่เคยมีแต่พวกนี้มาเติมเข้าไป หรือหากมีก็มีแต่ชื่อแต่เนื้อความนั้นพวกนี้แปลเนื้อความใหม่ทั้งนั้นแปลลงเหวไปคนละเรื่องเลยครับ ..ยิ่งถ้าลองถามหา พระวจนะพระพุทธเจ้า พระธรรมวินัย พระไตรปิฏก เพื่อมาอ้างอิงจะทราบว่าไม่ตรงกับพระไตรปิฏกแม้แต่หมวดเดียวหรือจะบอกว่าไม่มีเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นถ้าจะดูข้อมูลให้ดูข้อมูลที่มีจริงในต้นฉบับและมีพระไตรปิฏกรับรอง แต่ข้อมูลที่มาจากลัทธิแต่งนั้นไม่ต้องไปดูเพราะมันมั่ว แล้วข้อมูลที่พวกนี้เอามาก็ให้ถามหาแหล่งอ้างอิงเหอะครับจะรู้ว่าไม่มีอะไรมารับรองทั้งนั้น นอกจากเอามาจากผีเข้าทรงของลัทธิตัวเอง ..อ้อ..แล้วคนประเภทนี้จะไม่เอาตัวจริงมนาคุยเพราะกลัวจะเสียหน้าเวลาคนอื่นจับได้ว่า มั่ว โง่ ไรงี้

6. มาปกป้องลัทธิหรือขอให้หยุดเปิดโปงลัทธิ ทั้งที่ทราบว่าตัวเองก็ไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้แต่ก็ไม่ต้องการให้ใครมาเปิดโปงความมั่วของลัทธิตัวเอง คือต้องการให้หยุดเปิดโปงนั่นเอง 

7. เข้ามาเขียนโศลก คำกลอน สำบัดสำนวนแบบภาษาลิเก เพื่อให้ดูมีภูมิสูงมีธรรมมะสูงแต่ก็อาจแฝงไว้ด้วยการส่อเสียด สำนวนที่แต่งขึ้นก็ไม่ได้มีสาระอะไร ไม่ได้อธิบายอะไรได้ ไม่ตรงประเด็น และบางทีอาจไม่ตอบใครทั้งนั้น เพียงแค่ต้องการโชว์สำนวนนวนให้ดูเป็นผู้ดีมีธรรมมะเป็นหน้ากากบังหน้าเท่านั้น

8. พวกมา แถ อย่างเดียว แถ แบบไม่อายใคร แถ มั่วไปสุดขอบโลก คือไม่อะไรจะพูดจะแก้ตัวอะไรได้แล้วแต่ขอแถให้สะใจซะหน่อย

9. พวกมาทิ้งปริศนาธรรมไว้..พวกนี้จะมาแบบนินจานะมาเร็วไปเร็ว เข้ามาแล้วก็ทิ้งคำพูดปริศนาไว้สั้น ๆ ทำเป็นโชว์ภูมิเหมือนสูงส่งแต่ไม่มีอะไรหรอกครับ พวกนี้มาแล้วจะรีบหนีทันทีเพราะกลัวพูดมากแล้วจะดูโง่แล้วก็กลัวการสนทนาด้วยข้อมูลที่แท้จริงเพราะพวกนี้ไม่มีความรู้อะไรเลย

10.พวกมาตอดนิดตอดหน่อย คือทำไรไม่ได้แต่ขอนิดนึงขอฝากประโยคสั้น ๆ ไว้แล้วก็รีบหนีไป..อาจจะหายไปเลย หรืออาจจะคอยมาตอดเรื่อย ๆ นะมาแบบพอให้รำคาญแต่ไม่มีไรมาก

11. ข้อนี้ี้ยอดฮิตคือ..ห้ามไม่ให้เปิดความลับสวรรค์ ..ซึ่งก็จะมีการห้ามด้วยอารมณ์แตกต่างกันไปทั้งขอร้องทั้งข่มขู่..ผมจะเปิดกะลาบอกให้เอาบุญไอ้ความลับประตูนิพพานตรงดั้งจมูก คาถา.อู๋ไท่ฝอหมีเล่อ..และท่ามือกราบใต้ตมนั่นน่ะเลิกคิดได้แล้วว่ามันเป็นความลับเพราะเขารู้กันจะครึ่งโลกแล้วคนจากต่างประเทศเขาก็ยังเข้ามาดูเหมือนกัน แค่เปิด google ความลับสวรรค์พวกคุณก็จะแสดงขึ้นมานับไม่ถ้วน แล้วความลับนี้เขาเปิดโปงกันมานานแล้วตั้งแต่สมัยที่ประเทศจีีนเขาสั่งกวาดล้างลัทธินี้ก็มีการเปิดเผยเรื่องนี้ไปทั่วประเทศแถมประเทศจีนเขาทำภาพยนต์เปิดโปงลัทธิอนุตตรธรรมด้วยซ้ำไปดูหนังบ้างนะตอนจบโดนประหารตายอย่างกับหมาประชาชนก็โห่ไล่ด่าไม่เลี้ยง ..เพราะฉะนั้นลัทธินี้โผล่หน้าออกมาจากกะลาแลนด์ได้แล้ว

12.เข้ามามั่วโดยตรง พวกนี้แต่งพระสูตรเองได้นะจ๊ะแต่งตำราใหม่ได้แถมจับโน่นโยงมานี่จับนี่ใส่นั่นมั่วไปหมดสุดท้ายไม่มีสาระสักอย่าง

13. พวกเอาโอวาทผีเปรตมาอวดอ้าง..ไอ้โอวาทผีเปรตที่เข้าทรงกันในลัทธินั่นน่ะไม่มีใครอยากฟังหรอกครับและมันก็ใช้เป็นหลักฐานพิสูจน์อะไรไม่ได้เลย..

14. ชอบมาแอบอ้างบุคคลสำคัญต่าง ๆ ว่าเป็นสาวกลัทธิตัวเอง พวกนี้แอบอ้างตั้งแต่พระพุทธเจ้าและศาสดาต่าง ๆ ว่าเป็นสาวกลัทธิตัวเอง และแอบอ้างบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์จนกระทั่งแอบอ้างบุคคลสำคัญในโลกและในประเทศนี่ แอบอ้างบุคคลชั้นสูงคนต่าง ๆ แบบไม่กลัวกฏหมาย

15.พวกเข้ามาให้กำลังใจสาวกด้วยกันเอง..เพราะคงเห็นว่าสาวกด้วยกันโดนจับได้ซะแล้วว่ามั่วก็ต้องงัดไม้ตายบอกพวกเดียวกันว่า ............................อย่าไปสนใจเขาเลยอาวุโส ปล่อยเขาไปเถอะสักวันเขาต้องรับกรรมที่ขัดขวางงานเบื้องบนขอให้เราตั้งใจบำเพ็ญฟันฝ่ามารทั้งหลายไปให้ได้มรรคผลรออยู่ ?.................ประมาณนี้นะ ! แล้วมันก็จะปลอบใจกันเองในลัทธิต่อไป เอิ้ก เอิ้ก 

สรุป 
ทั้งหมดนะครับพออธิบายอะไรไม่ได้แล้วก็จะเหลือ สองพวกคือ พวกด่า กับ พวกคร่ำครวญ...ส่วนประเภทอื่นพอถูกซักไซ้ถามเข้าก็ตอบอะไรไม่ได้ ก็เลือกเงียบดีกว่าเพราะดูเป็นธรรมมะดี ดูอุเบกขา ดูว่ามีหน้ากากผู้ดีบังหน้า แต่ความจริงก็ไม่ไช่อย่างนั้นหรอกครับ ความจริงคือพวกนี้ไม่มีอะไรจะตอบ ไม่มีอะไรอธิบายได้ ไม่มีอะไรจะแก้ตัวได้ต่างหาก 

ตั้งแต่ผมถามพวกนี้มายังไม่เคยมีใครที่จะอธิบายลัทธิให้กระจ่างได้เลยแม้แต่คนเดียว ย้ำ แม้แต่คนเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น