วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

มุสลิมตอบคำถามลัทธิอนุตตรธรรม



คุยกับมุรีด
คำถามที่ : 4051
คำถาม : ลัทธิอนุตรธรรมมารศาสนา
ข้อความนี้ได้นำมาจากบอร์ดพันทิพย์ซึ่งเป็นความรู้เล็กๆน้อยๆที่จะให้เข้าใจเกี่ยวกับลัทธิอนุตรธรรม

ลัทธิอนุตรธรรมได้ใช้วิธีการต่างๆที่จะนำผู้คนจากทุกๆศาสนามาเป็นพวกของตน และได้บอกว่า พระศาสดาทุกศาสดาคือ พระพุทธเจ้า พระเยซูคริสต์ ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล) ได้รับโองการมาจากพระแม่องค์ธรรม หรือ พระเจ้า มาโปรดมนุษย์ แต่ปัจจุบันนี้คำสอนของศาสดาท่านต่างๆ ไม่สามารถที่จะนำผู้คนกลับสู่แดนนิพพานได้ อีกอย่างโดยอ้างว่าอนุตรธรรมคือ วิถีที่พระอนุตรธรรมมารดา หรือ พระเจ้า ช่วยฉุดช่วยสาธุชนให้พ้นจากการเวียนวายตายเกิดและกลับสู่แดนนิพพาน

1.กลุ่มนี้อ้างว่าพระพุทธเจ้าสามารถตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและได้ปรินิพพานเป็นเพราะได้รับการเปิดจุดญาณทวาร (ระหว่างใต้คิ้ว)

2.กลุ่มนี้ใช้พระคำ "เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีใครไปถึงพระบิดาได้โดยไม่ผ่านเรา" (โยฮัน 14:6) อ้างว่า พระเยซูคริสต์เป็นศาสดาท่านหนึ่งที่ได้รับมอบหมายจากพระอนุตรธรรมมารดาให้มาโปรดชาวโลกเพื่อให้กลับสู่แดนนิพพาน ซึ่งขัดต่อคำสอนของคริสเตียน เพราะคริสเตียนเชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นพระภาคหนึ่งของพระเจ้าที่มาไถ่มนุษย์โลกนี้จากความบาปผิด

3.กลุ่มนี้มีการให้โอวาทจากสิ่งศักสิทธิ์ผ่านร่างทรงซึ่งเป็นหญิงพรหมจรรย์ ซึ่งขัดต่อคำสอนของคริสเตียนในเรื่องของพวกร่างทรง จากพระคำ "อย่าไปหาคนทรงหรือพ่อมดแม่มดอย่าเที่ยวค้นหาให้ตนมลทินไปเพราะเขาเลยเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า" เลวีนิติ 19:31

4.กลุ่มนี้มีการกราบไหว้รูปเคารพซึ่งขัดต่อคำสอนของคริสเตียน และ อิสลาม
"อย่าให้ผู้ใดกลับนับถือรูปเคารพหรือหล่อพระไว้เป็นรูปเคารพสำหรับตนเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า.. " (เลวีนิติ 19:4)
"แท้จริงพวกท่านบูชารูปปั้นอื่นจากอัลลอฮ์และพวกท่านกุการมุสาขึ้น แท้จริงบรรดาที่พวกท่านบูชาอื่นจากอัลลอฮ์นั้น มันไม่มีอำนาจที่จะให้เครื่องยังชีพแก่พวกท่าน ดังนั้นจงขอเครื่องยังชีพจากอัลลอฮ์เถิดและจงเคารพภักดีพระองค์และจงขอบคุณต่อพระองค์ยังพระองค์เท่านั้นพวกท่านจะถูกนำกลับไป" ( ซูเราะฮฺ อัลอังกะบูต อายะหฺ17)

5.กลุ่มลัทธิอนุตรธรรมได้บอกว่ามนุษย์ทุกคนมาจากแดนนิพพานซึ่งขัดกันอย่างเห็นได้ชัดเพราะนิพพานไม่ใช่ดินแดน แต่นิพพานปรมัตถ์เป็นสภาพธรรมที่ดับทุกข์ จิต เจตสิก รูป จึงไม่มีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๔๔ หน้าที่ ๗๑๑
๑. ปฐมนิพพานสูตร ว่าด้วยอายตนะ คือ นิพพาน
[๑๕๘> ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อายตนะนั้นมีอยู่ ดิน
น้ำ ไฟ ลม อากาสานัญจายตนะ วิญญาณัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ โลกนี้ โลกหน้า พระจันทร์
และพระอาทิตย์ทั้งสอง ย่อมไม่มีในอายตนะนั้น
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่กล่าวซึ่งอายตนะนั้น
ว่า เป็นการมา เป็นการไป เป็นการตั้งอยู่ เป็นการ
จุติ เป็นการอุปบัติ อายตนะนั้นหาที่ตั้งอาศัยมิได้
มิได้เป็นไป หาอารมณ์มิได้ นี้แลเป็นที่สุดแห่งทุกข์.
จบปฐมนิพพานสูตรที่ ๑

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ หน้าที่ 719

๒. ทุติยนิพพานสูตร ว่าด้วยฐานะที่เห็นได้ยาก คือนิพพาน
[๑๕๙> ฐานะที่บุคคลเห็นได้ยาก ชื่อว่านิพพาน ไม่มีตัณหา นิพพานนั้นเป็นธรรมจริงแท้ ไม่เห็นได้โดยง่ายเลย ตัณหาอันบุคคลแทงตลอดแล้ว กิเลสเครื่องกังวลย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้รู้ ผู้เห็นอยู่.
จบทุติยนิพพานสูตรที่ ๒

6.ลัทธิอนุตรธรรมมีการสอนธรรมะแก่ผู้เข้าร่วมกลุ่มโดยร่างทรง ซึ่งบางครั้งมีพระพุทธเจ้ามาประทับทรงซึ่งขัดกับความจริงเนื่องจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว
-ขอให้เรามารู้จัก คำว่า"นิพพาน"กันนะครับ
"สภาพธรรมที่มีจริง เป็นปรมัตถธรรม ที่ทรงแสดงไว้ในพระไตรปิฎก มี ๔ คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน ถ้าพระผู้มีพระภาคไม่ได้ทรงประจักษ์ลักษณะของ นิพพานก็ทรงดับกิเลสไม่ได้ ขณะนี้ทุกคนมีจิต มีเจตสิก และมีรูป เมื่ออบรมเจริญปัญญาก็จะเห็นความเหนียวแน่นของกิเลสเพราะแม้ว่าสภาพธรรมที่มิใช่ตัวตนเป็นแต่เพียงนามธรรมหรือรูปธรรมจะปรากฏ เมื่อสติระลึกสังเกต พิจารณาบ่อย ๆ เนือง ๆ จากชาติหนึ่งสู่อีกชาติหนึ่งสู่อีกชาติหนึ่งก็ยังดับกิเลสไม่ได้ จนกว่าปัญญาจะอบรมเจริญคมกล้าถึงขั้น ประจักษ์แจ้งพระนิพพานซึ่งเป็นปรมัตถธรรม ที่เป็นวิสังขารธรรม

พระนิพพาน เป็นสภาพธรรมที่ไม่เกิดขึ้น นอกจากพระนิพพานแล้วไม่มีสภาพธรรมใดดับกิเลสได้เลย เพราะสิ่งใดที่เกิดขึ้นปรากฏ สิ่งนั้นเป็นที่พอใจของโลภะความต้องการได้ทั้งนั้น เมื่อนิพพานเป็นปรมัตถธรรมที่ไม่เกิดขึ้น โลภะจึงยินดีพอใจในนิพพานไม่ได้ โลภะ ความยินดีพอใจมีอยู่ตราบใด ก็เป็นปัจจัย เป็นสมุทัย คือเหตุที่จะให้มีภพชาติอยู่ตราบนั้น พระนิพพานเป็นปรมัตถธรรม เป็นสภาพธรรมที่มีจริง และเป็นสภาพธรรมอย่างเดียวที่ดับกิเลสได้

ฉะนั้นถ้าพูดว่านิพพานเป็นสถานที่ นิพพานก็จะต้องเกิดขึ้นจึงจะเป็นสถานที่ได้ แต่นิพพานธาตุ เป็น อสังขตธาตุ ไม่มีปัจจัยปรุงแต่งให้เกิดดับ นิพพานเป็นธาตุที่ดับกิเลส สภาพธรรมใดที่เกิดขึ้นจะพ้นไปจากจิต เจตสิก รูปไม่ได้ ฉะนั้น เมื่อมีสิ่งใดเกิดขึ้นจริง ๆ สิ่งนั้นไม่ใช่นิพพาน ต้องเป็นจิต หรือเป็นเจตสิก หรือเป็นรูป อย่างใดอย่างหนึ่งนั่นเอง"

7.ในพระศาสนาคริสต์ อิสลาม ไม่มีความเชื่อเรื่องเวียนวายตายเกิดและพระศาสดาทั้งสองพระองค์ไม่ทรงสอนเรื่องการเวียนวายตายเกิดเห็นได้ชัดว่า อนุตรธรรมไม่ใช่รากฐานของศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม เต๋า ขงจื้อ และอนุตรธรรมไม่ใช่วิถีที่พระเจ้า หรือ พระแม่องค์ธรรมประทานสู่มวลมนุษย์

นี้เป็นเว็บลัทธิอนุตรธรรม http://www.vithi.com

ที่มา 
http://www.mureed.com/mr_talk/bview.asp?id=4051

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น